เทรนด์การจัดงานแต่งงานในปี 2025

เทรนด์การจัดงานแต่งงานในปี 2025

ในปี 2025 เทรนด์การจัดงานแต่งงานยังคงพัฒนาไปตามบริบทของสังคม ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และความต้องการของคู่บ่าวสาวที่อยากให้งานแต่งของตัวเองมีความหมายและ เป็นตัวเอง มากขึ้น ไม่ใช่แค่งานพิธี แต่คืองานที่สะท้อนเรื่องราว ความรัก และแนวคิดที่เชื่อมั่น WeddinginThai ขอพาไปส่อง 9 เทรนด์จัดงานแต่งงานที่น่าจับตามองในปีหน้า ที่ทั้งสวย เก๋ และยังมีความหมายสุด ๆ

1. งานแต่งงานแบบยั่งยืน (Sustainable Wedding)
ในปี 2025 คู่รักจำนวนมากจะหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการลดขยะในงานแต่ง เช่น

• ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือของตกแต่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
  
• ลดการใช้ดอกไม้สดที่ต้องทิ้งหลังจบงาน
• หันมาใช้พืชผัก ผลไม้ท้องถิ่นในการตกแต่งโต๊ะอาหาร ซึ่งสามารถนำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านหรือใช้ประกอบอาหารต่อได้

ตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัดคือ งานแต่งของ แมท-ภีรนีย์ ที่เลือกใช้ผักผลไม้แทนดอกไม้สดในการตกแต่ง สะท้อนแนวคิดรักษ์โลกได้อย่างมีสไตล์

2. สถานที่จัดงานกลางแจ้งที่ยืดหยุ่นและเป็นธรรมชาติ
งานแต่งกลางแจ้งยังคงครองใจคู่รักที่หลงใหลบรรยากาศธรรมชาติ แต่ในปี 2025 ความ ยืดหยุ่น จะเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา เช่น

• สถานที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่จากกลางแจ้งเป็นในร่มได้ทันทีหากฝนตก
  
• สถานที่ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เช่น ไร่องุ่น คาเฟ่ในสวน หรือชายหาดเงียบ ๆ
  

คู่บ่าวสาวในยุคนี้ต้องการ ความเป็นธรรมชาติแบบไม่ยุ่งยาก และมีแผนสำรองเผื่อสถานการณ์ไม่คาดคิด

3. โทนสีธรรมชาติที่ดูดิบ เท่ และเรียบง่าย
โทนสีที่จะมาแรงในปี 2025 ได้แก่

• สีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาลอ่อน ครีม
• สีที่ให้ความรู้สึกดิบ เช่น สีเทาเข้ม เขียวเข้ม น้ำตาลอมเทา

โทนสีเหล่านี้ให้ความรู้สึกสงบ เรียบเท่ และเข้ากับแนวคิดรักษ์โลกหรืองานแต่งสไตล์มินิมอล

4. งานเลี้ยงที่เป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ
คู่รักยุคใหม่เริ่มเบื่อกับพิธีรีตรองยาวเหยียด งานเลี้ยงในปี 2025 จะเน้นความอบอุ่นและความรู้สึก เหมือนได้มาเจอเพื่อน เช่น

• งานเลี้ยงแบบบาร์บีคิวกลางแจ้ง
  
• จัดในร้านกาแฟหรือโฮมสเตย์น่ารัก ๆ
• ไม่มีพิธีการมาก แขกสามารถเดินเล่น พูดคุย ถ่ายรูป ได้แบบชิล ๆ

5. แฟชั่นชุดแต่งงานที่แสดงตัวตนของคู่บ่าวสาว
ไม่จำเป็นต้องเป็นชุดสีขาวเสมอไป ปี 2025 จะเห็นแฟชั่นชุดแต่งงานที่หลากหลายและ กล้าทดลอง มากขึ้น เช่น

• ชุดแต่งงานสีเบจ สีเทา สีชมพูกุหลาบ
  
• ผ้าปักลาย งานเย็บมือ หรือผ้าไทยร่วมสมัย
  
• ชุดเจ้าบ่าวสไตล์แคชชวล ไม่ต้องเป็นสูทเต็มยศเสมอไป
  ทั้งหมดเพื่อสะท้อนสไตล์เฉพาะตัวของแต่ละคู่รัก

6. การตกแต่งด้วยดอกไม้แห้งและดอกไม้ท้องถิ่น
กระแสดอกไม้แห้งและดอกไม้พื้นบ้านจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะ

• เก็บได้นาน
  
• มีความดิบเท่
  
• ลดการใช้ทรัพยากรและเหมาะกับงานแต่งสไตล์โบฮีเมียนหรือมินิมอล
  

7. งานแต่งธีมดิจิทัล (Digital Wedding)
เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตประจำวัน งานแต่งก็ไม่เว้น

• มีการใช้ AR/VR เพื่อจำลองสถานที่หรือให้แขกต่างประเทศเข้าร่วมแบบ Virtual
  
• การถ่ายทอดสดงานแต่งผ่านโซเชียล
  
• แจกของที่ระลึกเป็น NFT หรือ QR code แทนของชำร่วยแบบเดิม ๆ
  ทั้งหมดนี้คือความสนุกที่ผสานเทคโนโลยีกับความโรแมนติกได้อย่างลงตัว

️ 8. อาหารและเครื่องดื่มที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Custom Menu)
คู่รักจะใส่ใจในรายละเอียดของอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เช่น

• อาหารมังสวิรัติหรือวีแกน
  
• เครื่องดื่มที่ออกแบบพิเศษตามเรื่องราวของคู่บ่าวสาว
• เมนูที่ผสมผสานสองวัฒนธรรม เช่น ต้มยำในแก้วช็อต หรือพาสต้าเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว

เป็นวิธีหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวความรักผ่าน รสชาติ

9. ผสมผสานประเพณีท้องถิ่นกับประเพณีสากล
คู่รักที่มีวัฒนธรรมต่างกัน หรืออยากให้งานแต่งมีความ ไม่ธรรมดา จะเลือกนำสองวัฒนธรรมมาผสมผสานกัน เช่น

• พิธีหมั้นแบบไทย ตามด้วยพิธีคริสต์
  
• ชุดไทยร่วมสมัยสำหรับเจ้าสาวต่างชาติ
• อาหารเสิร์ฟแบบบุฟเฟต์ไทยผสมอาหารฝรั่ง