พิธีแต่งงานแบบอิสลามมีขั้นตอนยังไงบ้าง
พิธีแต่งงานแบบอิสลาม หรือ นิกะห์ (Nikah) มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
พิธีแต่งงานในศาสนาอิสลาม เรียกว่า "นิกะห์" (Nikah) ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถือเป็นการทำสัญญาระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยมีศาสนาเป็นศูนย์กลางของความสัมพันธ์ และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทั้งหมด
วันนี้ Wedding in Thai ขอพาไปรู้จักแต่ละขั้นตอนของพิธีแต่งงานแบบอิสลามกันค่ะ
1. ขออนุญาตจากผู้ปกครองหญิง (Wali)
หนึ่งในหลักปฏิบัติสำคัญของพิธีนิกะห์ คือ การขออนุญาตจาก ผู้ปกครองฝ่ายหญิง (วะลี) ซึ่งมักจะเป็นพ่อ หรือญาติผู้ชายที่ใกล้ชิดที่สุด หากบิดาไม่อยู่ โดยวะลีจะต้องให้การยินยอมในการแต่งงานอย่างชัดเจน เพราะถือเป็นการปกป้องเกียรติของเจ้าสาวและเป็นการให้เกียรติกันตามหลักศาสนา
2. ตกลงเรื่องสินสอด (Mahr)
Mahr (มะฮัร) คือ สินสอดที่เจ้าบ่าวมอบให้เจ้าสาว เป็นสิ่งที่เจ้าสาวมีสิทธิขอได้ตามที่เห็นสมควร โดยอาจเป็นเงิน ทอง เครื่องประดับ หรือสิ่งของที่มีคุณค่า สินสอดนี้ไม่ได้ถือเป็นราคาของเจ้าสาว แต่เป็นของขวัญที่แสดงถึงความรัก ความจริงใจ และความพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตคู่จากฝ่ายเจ้าบ่าว
3. กล่าวคำสาบานแต่งงาน (Ijab and Qubul)
เมื่อวะลีให้การยินยอมเรียบร้อยแล้ว พิธีจะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือ การกล่าวคำสาบานหรือคำยินยอมแต่งงาน (อิจาบและกุบูล)
วะลีจะกล่าวว่า ข้าขอยกนาง (ชื่อเจ้าสาว) ให้แก่ท่าน (ชื่อเจ้าบ่าว) ด้วยสินสอดที่ตกลงกัน
เจ้าบ่าวจะตอบว่า ข้ายอมรับนาง (ชื่อเจ้าสาว) เป็นภรรยาของข้าตามสินสอดที่ตกลงกันแล้ว
หากคำพูดถูกต้องครบถ้วนตามหลักศาสนา และกล่าวต่อหน้าพยานอย่างชัดเจน ก็ถือว่าการแต่งงานเป็นที่สมบูรณ์แล้ว
4. ต้องมีพยานชาย 2 คน
พิธีนิกะห์จะสมบูรณ์ไม่ได้หากไม่มีพยาน ซึ่งต้องเป็น ชายมุสลิม 2 คน ที่มีศีลธรรมดี เข้าร่วมเพื่อยืนยันการแต่งงาน โดยพยานจะอยู่ร่วมในพิธีตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อรับรู้และรับรองว่าการแต่งงานนี้เกิดขึ้นอย่างถูกต้องตามหลักอิสลาม
5. ️ ลงนามในสัญญาแต่งงาน (Nikah Nama)
หลังจากกล่าวคำสาบานแล้ว คู่บ่าวสาว ผู้ปกครอง และพยาน จะร่วมกันลงชื่อในเอกสารทางศาสนาและกฎหมายที่เรียกว่า นิกะห์นามะห์ เพื่อบันทึกข้อมูลการแต่งงานไว้เป็นหลักฐาน โดยเอกสารนี้มีผลทั้งทางศาสนาและทางโลก
6. อ่านพระคัมภีร์อัลกุรอาน
ในช่วงหนึ่งของพิธี จะมีการอ่าน คัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเป็นบทที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสมรส เช่น บทที่กล่าวถึงความเมตตา ความเข้าใจ และหน้าที่ต่อกันของคู่สามีภรรยา เพื่อเป็นสิริมงคลและขอพรจากอัลลอฮ์ให้ชีวิตคู่อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
7. โอวาทและการขอพร (Khutbah & Dua)
ผู้ทำพิธีซึ่งมักเป็นอิหม่ามหรือผู้นำทางศาสนา จะให้ โอวาท (Khutbah) แก่คู่บ่าวสาว เพื่อเตือนใจและแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ตามหลักอิสลาม เช่น การดูแลซึ่งกันและกัน การให้อภัย และการรักษาความซื่อสัตย์ จากนั้นจะมีการ ขอพร (Dua) ต่ออัลลอฮ์ เพื่อให้ชีวิตสมรสของทั้งสองเต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และประสบความสำเร็จในทางที่ดี
8. ️ เลี้ยงฉลอง (Walima)
หลังจากพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว ครอบครัวฝ่ายเจ้าบ่าวมักจะจัดงานเลี้ยงที่เรียกว่า "วะลีมะห์" (Walima) เป็นการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นชีวิตคู่ โดยเชิญญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมรับประทานอาหารและแสดงความยินดี ถือเป็นการประกาศการแต่งงานให้สังคมรับรู้ตามธรรมเนียมอิสลาม
พิธีแต่งงานแบบอิสลาม นิกะห์ เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงระหว่างคู่รักกับพระเจ้า ผ่านการยินยอม ความเข้าใจ และความรับผิดชอบอย่างแท้จริง เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่บนพื้นฐานของศรัทธาและการเคารพซึ่งกันและกัน หากใครกำลังวางแผนแต่งงานแบบอิสลาม ลองเข้าไปดูไอเดียและบริการเพิ่มเติมได้ที่ Wedding in Thai เลยนะคะ
![]() |
![]() |